ข่าวปลาวาฬนำร่องเสียชีวิตเพราะกินถุงพลาสติกหลายกิโลกรัมเข้าไปอาจจะทำให้หลายคนคิดว่าถึงเวลาที่บ้านเราควรจะจัดการปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจังเสียที ซึ่งจริงๆ แล้วเราสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ จากตัวเราและคนรอบข้างนี่เอง อย่างที่ Code Orange เราก็พยายามเน้นบรรยากาศการเป็น Environment-friendly office อยู่เสมอ มาดูกันว่าเราทำอะไรบ้าง
ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก
ปกติเวลาไปซื้อของที่ห้าง/ซุปเปอร์มาร์เก็ต/ร้านสะดวกซื้อ สิ่งที่เราได้กลับมาด้วยก็คือถุงพลาสติกซึ่งนี่แหล่ะถือเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปัญหาขยะพลาสติกยังคงวนเวียนอยู่ในบ้านเรา หนึ่งในทางแก้ที่ดีที่สุดก็คือเราสามารถพกถุงผ้าเพื่อเอามาใช้ใส่ของที่ช็อปปิ้งแทนการใส่ถุงพลาสติกได้ (หรือถ้าซื้อน้อยชิ้นก็ไม่ต้องใส่ถุง) เรื่องนี้ บ้านเราเคยรณรงค์มาแล้วโดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมได้ร่วมมือกับห้างสรรพสินค้า 16 แห่งในการงดใช้ถุงพลาสติกทุกวันที่ 15 ของเดือนซึ่งปรากฏว่าเพียงวันเดียวก็สามารถลดการใช้ถุงพลาสติกได้ถึง 1.8 ล้านใบเลยทีเดียว นั่นหมายความว่าถ้าเราช่วยกันทำทุกวัน ก็น่าจะช่วยลดจำนวนการใช้ถุงพลาสติกลงได้เยอะหลายล้านใบเหมือนกัน (เดือนตุลาคมนี้กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณะสุขก็จะประกาศยกเลิกการใช้ถุงพลาสติกสำหรับใส่ยาซึ่งคาดว่าน่าจะลดการใช้ได้มากถึงปีละกว่า 9 ล้านใบ)
*ที่ประเทศอื่น เช่น ญี่ปุ่น, อังกฤษ ฯลฯ หากอยากได้ถุงพลาสติกเวาลาไปซื้อของ เราจะต้องจ่ายเงินซื้อซึ่งนี่ทำให้สามารถลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกลดลงเยอะพอสมควร
พกแก้วส่วนตัว
แน่นอนว่า ชา-กาแฟคือสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนอย่างพวกเราขาดไม่ได้ (ไม่งั้นช่วงบ่ายอาจจะต้องนั่งสับปะหงกในห้องประชุมได้) แต่คุณรู้ไหมว่าแก้วพลาสติกที่มาพร้อมกับคาปูชิโน่อันแสนอร่อยนั้นก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่สร้างมลภาวะให้กับโลกใบนี้และใช้เวลานานถึง 450 ปีในการย่อยสลาย อย่างไรก็ตาม เราสามารถลดปริมาณขยะพลาสติก (แก้วชากาแฟทั้งหลาย) ได้ด้วยการพกแก้ว (mug/cup) ส่วนตัวของเราไปเอง ไม่ต้องใช้ของที่ร้าน นี่ทำให้เราลดจำนวนการใช้แก้วของร้านกาแฟได้ 5-6 ใบต่อวัน (นับเฉพาะของบริษัท Code Orange เท่านั้น)
ดื่มจากแก้ว งดใช้หลอด
สิ่งเล็กๆ อีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้เราลดการใช้พลาสติกลงก็คือการงดใช้หลอดพลาสติก นี่เป็นสิ่งที่หลายคนทำได้ ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่ไปซื้อน้ำเปล่าที่ร้านสะดวกซื้อ (แค่บอกคนขายว่าไม่เอาหลอด) หรือเวลาไปกินข้าวกลางวันที่ร้านอาหาร วิธีนี้เป็นอีกวิธีที่ทั่วโลกกำลังผลักดันและรณรงค์ให้ทุกคนทำ อย่างในฮ่องกงตอนนี้ก็มีร้านอาหารกว่า 400 ร้านแล้วที่ตกลงจะไม่ใช้หลอดพลาสติก
*ในอเมริกามีการใช้หลอดพลาสติกมากถึง 500 ล้านชิ้นในหนึ่งวัน ลองคิดดูว่าทั่วโลกจะใช้กันเยอะขนาดไหน
ประหยัดพลังงานอยู่เป็นนิจ
ไม่ว่าจะเป็นการไม่เปิดจอคอมพิวเตอร์ค้างไว้ตอนไม่ทำงาน, ไม่เสียบปลั๊กโน้ตบุ้คทิ้งไว้โดยไม่ใช้งาน รวมถึงอุปกรณ์อิเล็คโทรนิกส์อื่นๆ, ไม่ปริ้นต์เอกสารที่ไม่จำเป็นเพื่อประหยัดหมึกและกระดาษ เน้นการใช้ไฟล์อิเล็กทรอนิกส์แทน รวมไปถึงการถอดปลั๊กอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์