เว็บโฮสติ้ง (Web Hosting) ก็คือบริการให้เช่าพื้นที่สำหรับฝากเว็บไซต์ เพื่อให้เว็บเข้าสามารถสู่ระบบออนไลน์ซึ่งจะเป็นช่องทางให้คนเข้ามาเยี่ยมชมเว็บได้นั่นเอง แต่การจะเลือกเว็บโฮสติ้ง ต้องมาทำความเข้าใจก่อนว่ามันมีกี่อย่างและแบบไหนที่เหมาะกับเว็บของเรา
1. Shared Hosting
Shared Hosting คือการซอยพื้นที่ในเครื่องเซิฟเวอร์มาให้เช่าซึ่งคุณเองจะไม่สามารถรู้ได้ว่าคุณแชร์ (หรือต้องไปแย่งชิง) กับใครบ้าง บางทีจะมีการระบุ (จากผู้ให้บริการ) มาว่าเว็บหนึ่งสามารถใช้ทรัพยาการ/พื้นที่ได้เท่าไหร่ ข้อดีของการโฮสประเภทนี้คือราคาไม่สูงนัก แต่ก็มีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น เว็บไซต์อาจจะโหลดช้ากว่าใช้เว็บโฮสติ้งประเภทอื่น, เว็บที่มีคนใช้งานเยอะอาจจะแย่งทรัพยากรไปใช้, ถ้ามีคนเข้ามาเยี่ยมชมหรือใช้งานมากขึ้น เว็บเราจะยิ่งช้าลงเรื่อยๆ, ถ้าอยากจะเพิ่มความเร็วให้เว็บไซต์อาจจะทำได้ลำบากเพราะมีข้อจำกัดทางเทคนิคหรือไม่มี option ให้เลือกมากนัก
2.VPS Hosting
VPS หรือ Virtual Private Server เป็นบริการ Web Hosting อีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับ Shared Hosting ทั่วๆ ไป ถ้าจะพูดให้ฟังง่ายก็คือเหมือนเรามีคอนโดแบบสตูดิโอขนาดใหญ่แล้วมาซอยออกเป็นห้องที่เล็กลง แยกเป็นสัดส่วนของใครของมันแต่ถ้าพูดในเชิงเทคนิคก็คือผู้ให้บริการจะแบ่งพื้นที่และทรัพยากรในเครื่องเซิฟเวอร์ เช่น CPU, RAM ออกเป็นส่วนๆ แล้วติดตั้ง IP Address ให้แต่ละส่วนซึ่งเมื่อทำเสร็จแล้วก็จะปล่อยให้เราเข้าไปใช้งานได้ผ่านซอฟต์แวร์ เช่น Remote Desktop Connection
ข้อดีของเว็บโฮสติ้งประเภทนี้คือประสิทธิภาพสูงกว่า Shared Hosting เพราะมีการแบ่งทรัพยากรภายในเครื่องให้ลูกค้าแต่ละรายอย่างชัดเจน ทำให้ไม่เกิดปัญหาการแย่งทรัพยากรกันเช่น บางเว็บกินแรม (RAM) เยอะก็อาจทำให้เว็บอื่นๆ เข้าเว็บไซต์ช้าหรือใช้งานไม่ได้ไปด้วยและยังจะทำให้เว็บไซต์เร็วกว่าด้วยเพราะมีการแยก IP Address แยกเป็นของตัวเอง จึงมีความเร็วในการใช้งานเท่ากับที่ผู้ให้บริการจัดให้ (Shared Hosting ต้องแชร์ความเร็วกับเว็บไซต์อื่นๆในเครื่องเดียวกัน) แถมยังอัพเกรดได้ด้วย เช่นเพิ่มแรม, เปลี่ยน CPU, เพิ่ม Hard Disk ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีความเป็นส่วนตัวสูงเพราะว่ามีเว็บเราแค่เว็บเดียวเลยสามารถที่จะลงโปรแกรมหรือเก็บข้อมูลส่วนตัวได้ นี่จะทำให้เว็บของคุณมีความปลอดภัยขึ้นด้วยเพราะสามารถลงโปรแกรมเพื่อป้องกันการแฮ็คหรือล้วงข้อมูลเพิ่มเติมได้ ส่วนเรื่องอีเมลล์ก็มีการจัดการได้เป็นระบบและรวดเร็วมากขึ้นเพราะไม่ต้องรอคิวการรับ-ส่งเหมือน shared hosting และยังป้องกันการติดแบล็คลิต์ในฐานะสแปมเมลล์ได้ด้วยเพราะบางที IP ที่เราใช้ใน shared hosting อาจมีบางเว็บที่ใช้ส่งอีเมลล์เยอะเกินจนโดนแบน (เราเลยซวยไปด้วย)
นอกจากนี้เหตุผลสำคัญก็คือเว็บโฮสติ้งรูปแบบนี้มีราคาที่เอื้อมถึงได้และถูกกว่าเมื่อเทียบกับแบบ dedicated sever จึงเหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีงบน้อยและยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้การโฮสต์แบบเซิฟเวอร์เดี่ยว
3.Dedicated Server
ถ้าคุณชอบแบบเหมาหมดทั้งเซิฟเวอร์คนเดียวเลย นี่คือเว็บโฮสติ้งที่คุณกำลังมองหาเพราะผู้บริการจะยกเซิฟเวอร์ให้คุณเพียงคนเดียว ไม่มีการแบ่งกับลูกค้ารายอื่น คุณก็จะได้พื้นที่ Harddisk ที่มากับเซิฟเวอร์และได้ใช้ CPU, RAM ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจึงเหมาะกับองค์กรขนาดกลางไปถึงขนาดใหญ่ที่อยากได้ทั้งความรวดเร็ว, ความเสถียรในการใช้งานและปลอดภัยระดับสูง ส่วนรูปแบบการใช้งานก็สามารถใช้ได้ทั้งการใช้กับเว็บเดียวที่มีปริมาณการเข้าชมสูงมากๆ หรือใช้หลายเว็บแต่เราดูแลเพียงคนเดียวหรือจะนำมาแบบพื้นที่ขายแบบ shared hosting ก็ได้
4.Reseller Hosting
ถ้าคุณเป็นเอเจนซี่ที่รับออกแบบเว็บไซต์หรือจัดทำเว็บไซต์ คุณก็สามารถเช่าเซิฟเวอร์แล้วนำมาแบ่งขาย (ในนามตัวเอง) ให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการก็ได้ ก็จะเป็นการให้บริการที่ครบวงจรทั้งออกแบบและให้บริการเช่าพื้นที่เว็บไซต์ควบคู่กันด้วย แต่คุณอาจจะต้องเก่งเรื่องการคิดแพ็คเก็จเพื่อให้เป็นที่พอใจของลูกค้าและคำนึงถึงเรื่องบริการหลังการขายด้วย